Main Menu

Recent posts

#11
ตัวแรงเขาเลย  :o
#12

Kawasaki Z650 เป็น Naked Bike อีกรุ่นของคาวาซากิ ที่ร้อนเเรงเเละเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างยิ่ง โดยมันมาพร้อมทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เเรงเเละรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์รถของตระกูล Z ที่จะทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกติดอกติดใจจนอยากนำออกไปขับขี่ในทุกวันเลยก็ว่าได้

Kawasaki Z650 นั้นมีมิติตัวรถด้วยการที่มีความกว้างอยู่ที่ 765 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,115 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,065 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,410 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 790 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 15 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 188 กิโลกรัม นับว่าเป็นรถขนาดกลางอีกรุ่นของคาวาซากิที่มีมิติรถขนาดใหญ่

สมรรถนะของ Kawasaki Z650 นั้นก็เรียกว่าร้อนเเรงด้วยการพกพาขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 649 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ Liquid-cooled, 4-stroke Parallel Twin มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 8 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 83.0 x 60.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 10.8 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นคลัทช์เปียกหลายแผ่นแบบธรรมดา โดยมีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 สปีด, ย้อนกลับ โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบดิจิตอล ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection: ø36 mm 2 with dual throttle valves โดยที่มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบไฟฟ้า นับว่าเป็นรถอีกรุ่นของคาวาซากิที่มีสมรรถนะสูงพอสมควรเลยทีเดียว

Kawasaki Z650 นั้นมีเฟรมเเบบ TRELLIS ที่มีน้ำหนักเบา ส่วนทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ ø41 mm telescopic fork ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Horizontal Back-link with adjustable preload ในขณะที่ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นเเบบ Dual semi-floating ø300 mm petal discs, Caliper- Dual piston ส่วนระบบเบรกด้านหลังจะเป็นเเบบ Single ø220 mm petal disc, Caliper- Single-piston โดยที่ยางหน้ามีขนาด 120/70ZR17M/C (58W)  ส่วนยางหลังมีขนาด 160/60ZR17M/C (69W) หน้าจอเเสดงผลมีขนาด 4.3 นิ้วเเบบ all-digital TFT colour เบาะนั่งเป็นเเบบ 2 ที่นั่งกระชับสรีระเป็นอย่างยิ่ง โดยตัวบอดี้มี 3 สีด้วยกันทั้งสีเขียว CANDY LIME GREEN / METALLIC SPARK BLACK (2021), สีเทา METALLIC SPARK BLACK (2020) เเละสีเขียว CANDY LIME GREEN / METALLIC SPARK BLACK (2020) เรียกว่าสวยงามและน่าสนใจทั้ง 3 สี

สนราคาของ Kawasaki Z650 นั้นเคาะราคาขายออกมาที่เรท 292,200 บาท สำหรับรุ่นที่มีสี CANDY LIME GREEN / METALLIC SPARK BLACK (2021) ส่วนรุ่นที่มีสีเทา METALLIC SPARK BLACK (2020) ก็จะขายในราคา 302,200 บาท เเละรุ่นที่มีสีเขียว CANDY LIME GREEN / METALLIC SPARK BLACK (2020) ขายในราคา 298,700 บาท นับว่าเป็นรถอีกรุ่นที่มีราคาน่าสนใจไม่น้อย
#13

Kawasaki Ninja ZX-10R เป็นรถที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสนามเเข่งขันอีกรุ่นของคาวาซากิ โดยในรายการเเข่งขัน Superbike World Championship (WSB) ก็รั้งอันดับ 2 ในปี 2012, คว้าแชมป์ในปี 2013 และอันดับ 2 ในปี 2014 และในซีซั่นปัจจุบัน Jonathan Rea นักบิดระดับโลกประจำทีมคาวาซากิก็ยังคงครองแชมป์ไว้ได้ ถือว่าเป็นอีกรุ่นของคาวาซากิที่น่าสนใจ

โดย Kawasaki Ninja ZX-10R มีมิติตัวรถที่น่าสนใจ โดยมันมาพร้อมกับความกว้างอยู่ที่ 740 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,085 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,145 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,440 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 145 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 835 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 17 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 206 กิโลกรัม เป็นอีกโมเดลที่น่าสนใจของคาวาซากิ

Kawasaki Ninja ZX-10R นั้นมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ Liquid-cooled, 4-stroke In-Line Four มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 16 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 76 x 55 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 13.0 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ  Wet multi-disc, manual โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed, return โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Digital ส่วนระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection: ø47 mm x 4 with dual injection โดยมีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric เป็นอีกรุ่นที่ได้ดีเอ็นเอจากสนามเเข่งมาเต็มๆ

Kawasaki Ninja ZX-10R มาพร้อมกับเฟรมเเบบอลูมิเนียม TWIN-SPAR / สวิงอาร์มอลูมิเนียม โดยเชื่อมต่อเป็นแนวตรงจากคอไปจนถึงแกนสวิงอาร์ม ส่วนทางด้านระบบกันสะเทือนหน้านั้นได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพด้วยโช้คอัพระบบ Balance Free ส่วนด้านหลังได้โช้คอัพ BFRC lite รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Showa ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าและขนาดเล็กกว่าแบบ Cushion ที่เคยใช้มาก่อน ระบบห้ามล้อหน้ามาพร้อมระบบเบรกหน้าตัวท็อปจาก Brembo ซึ่งคล้ายกับระบบที่ใช้ในรุ่น Ninja H2R การปรับแต่งด้วยเทคโนโลยีพิเศษจากโรงงาน Brembo ทำให้มั่นใจได้ว่าการระบบเบรกจะตอบสนองด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ ส่วนระบบห้ามล้อหลังเป็นเเบบ Single ø220 mm disc Single-bore pin-slide โดยมีขนาดยางหน้า 120/70ZR17M/C (58W) ส่วนขนาดยางหลัง 190/55ZR17M/C (75W) ส่วนเรือนไมล์เป็นเเบบสี TFT ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่ใช้งาน ทางด้านของโคมไฟหน้าดูสปอร์ตเร้าใจเเบบ LED มีระบบกันสะบัดแบบใหม่จาก ÖHLINS ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งทำงานแปรผันตามความเร็วและอัตราการเร่งความเร็วหรือลดความเร็ว นอกจากนี้โครงกระจังหน้ารถและจอแสดงการทำงานโฉมใหม่ พร้อมกับส่วนท้ายที่ยาวขึ้น ส่งให้ตัวรถดูปราดเปรียวกะทัดรัดขึ้น ส่วนสีของตัวบอดี้นั้นมีด้วยกัน 3 สี ทั้งสีเขียว LIME GREEN (2020) หรือจะเป็นสีเทา METALLIC SPARK BLACK/METALLIC FLAT SPARK BLACK (2020) เเละสี LIME GREEN / EBONY / METALLIC GRAPHITE GRAY (2019)

ส่วนทางด้านของราคาขายนั้น Kawasaki Ninja ZX-10R เคาะราคาขายออกมาที่ 709,000 บาท สำหรับสีเขียว LIME GREEN (2020) เเละสี LIME GREEN / EBONY / METALLIC GRAPHITE GRAY (2019) ส่วนทางด้านของสีเทา METALLIC SPARK BLACK/METALLIC FLAT SPARK BLACK (2020) นั้นขายที่ราคา 704,000 บาท
#14

Kawasaki KLX140R F นับว่าเป็นเอ็นดูโร่ อีกรุ่นของคาวาซากิ ที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นคู่หูของนักบิดร่างสูงใหญ่ โดยผสมผสานความแข็งแกร่งของโครงรถแบบ perimeter ที่ใช้ในรถวิบากตระกูล KX และระบบกันสะเทือนสำหรับรถวิ่งระยะไกล รวมทั้งวงล้อขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนสมรรถนะนั้นก็เเรงน่าสนใจเมื่อมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบ 1 สูบ เหมาะกับการขับไปในเส้นทางวิบาก

มิติตัวรถของ Kawasaki KLX140R F ก็น่าสนใจเพราะมันมีความกว้างอยู่ที่ 790 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,005 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,135 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,330 มิลลิเมตร ส่วนความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 315 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะนั่งที่ 860 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 5.8 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 99 กิโลกรัม

มาดูกันต่อที่สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Kawasaki KLX140R F ก็น่าสนใจเพราะขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาดเล็กเเบบสูบเดียว ที่มีขนาด 144 ซีซี ที่เป็นเครื่องยนต์เเบบ Air-cooled, 4-stroke Single มีระบบวาล์วเเบบ SOHC, 2 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 58.0 x 54.4 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 9.5 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นคลัทช์เปียกหลายแผ่นแบบธรรมดา มีระบบหล่อลื่น เเบบ Forced lubrication, wet sump ส่วนระบบส่งกำลังเป็นเเบบ 5 สปีด, ย้อนกลับ มีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Digital DC-CDI ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นCarburettor: PB20 โดยที่มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบไฟฟ้า

Kawasaki KLX140R F มีเฟรม Perimeter ที่ผลิตจากเหล็กรับแรงดึงสูงใหม่แบบ All-new ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าเป็น ø33 mm telescopic fork ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Uni-Trak with aluminium single shock; piggyback reservoir; adjustable preload; adjustable compression and rebound damping โดยที่ระบบเบรคด้านหน้าจะเป็นเเบบ Single ø220 mm petal dice ส่วนระบบเบรคด้านหลังจะเป็นเเบบ Single ø190 mm petal dice ขนาดยางหน้าอยู่ที่ 2.75-21 45M ส่วนขนาดยางหลังอยู่ที่ 4.10-18 59M หน้าจอเเสดงผลขนาดเล็กเเบบดิจิตอล มีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่ผสมผสานระหว่างการใช้งานและรูปทรงที่สมบูรณ์แบบ ที่พักเท้าและโครงรถสไตล์รถวิบากช่วยให้วางเท้าได้ถนัดขึ้น โครงรถแบบกล่องถูกปรับให้มีพื้นผิวเรียบแบนเพื่อให้ผู้ขี่สามารถใช้เท้ายึดกับตัวรถได้ดีขึ้น ส่วนที่พักเท้ามีขนาดยาวขึ้น ทั้งยังอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของตัวรถ ช่วยให้ผู้ขี่นั่งในท่าที่สบายและวางเท้าได้สบายขึ้น คันสตาร์ทด้วยเท้าถูกตัดออกไปเพื่อให้ผู้ขี่ควบคุมรถได้สะดวกขึ้น โดยตัวบอดี้มีด้วยกัน 2 สีทั้งสีเขียว LIME GREEN (2023) กับสีเขียว LIME GREEN (2022)

ราคาขายของ Kawasaki KLX140R F นั้นเคาะออกมาที่ 107,600 บาท นับว่าเป็นรถเอ็นดูโร่ อีกรุ่นของคาวาซากิที่มีเรทราคาน่าสนใจครอบครองเป็นเจ้าของ
#15

Café Racer เท่ห์ ๆ ในตระกูล Ducati Scrambler อย่าง Ducati Scrambler Icon Dark นั้นเต็มไปด้วยสมรรถนะเเละความร้อนเเรงน่าสัมผัสอีกรุ่น

โครงสร้างตัวรถของ Ducati Scrambler Icon Dark ออกเเบบมาได้อย่างพอดีลงตัว เพราะมันมาพร้อมกับขนาดความยาวอยู่ที่ 2,100-2,165 มิลลิเมตร ความกว้างอยู่ที่ 855 มิลลิเมตร เเละความสูงที่ 1,150 มิลลิเมตร น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 173 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 189 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 798 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,445 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 24 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 112 มิลลิเมตร ส่วน Total steering lock อยู่ที่ 35 องศา ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 13.5 ลิตร เบาะนั่งยาวชิ้นเดียวเเบบ Dual seat

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Ducati Scrambler Icon Dark นั้นร้อนเเรงเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเครื่องยนต์เเบบ L-Twin, Desmodromic distribution, 2 valves per cylinder, air cooled ที่มีขุมพลังขนาด 803 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 88 x 66 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 73 เเรงม้าที่ 8,250 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 66.2 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection, 50 mm throttle body  ในขณะที่ระบบไอเสียจะเป็น Exhaust system with single stainless steel muffler, aluminium silencer cover, catalytic converter and 2 lambda probes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed มี Primary drive ที่ 1=32/13 2=30/18 3=28/21 4=26/23 5=22/22 6=24/26 อัตรา Straight cut gears, Ratio 1.85:1 ส่วน Final drive เป็นเเบบ Chain, front spocket 15, rear sprocket 46 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Hydraulically controlled slipper and self-servo wet multiplate clutch ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่สเปกน่าสนใจ

เฟรมของ Ducati Scrambler Icon Dark เป็นเเบบ Tubular steel Trellis frame ที่ได้รับการออกเเบบใหม่มาเป็นอย่างดี มีความเเข็งเเกร่งเเละทนทานสูง ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ Upside down Kayaba 41 mm fork ทางด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Kayaba rear shock, pre-load adjustable ระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเป็นเเบบ Ø330 mm disc, radial 4-piston calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบ Ø245 mm disc, 1-piston floating calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ในขณะที่ส่วนของล้อหน้าจะเป็นเเบบ 10-spoke in light alloy, 3.00" x 18" ล้อหลังเป็นเเบบ 10-spoke in light alloy, 5.50" x 17" โดยยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 110/80 R18 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 180/55 R17 โคมไฟหน้าเป็นทรงกลมดวงเดียวขนาดใหญ่มีเหล็กกันกระเเทกคาดเเบบกากบาท แฮนด์จับยาว พร้อมกระจกมองหลังทรงกลม ส่วนไฟท้ายเเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ท่อไอเสียเดี่ยวดูดุดัน จอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ LCD โดยเป็นทรงกลมคลาสสิค ที่พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีสีดำ Matt Black

ราคาขายของ Ducati Scrambler Icon Dark นั้นเคาะออกมาที่เรท 349,000 บาท
#16

Ducati Scrambler 1100 Sport PRO เป็นรถจักรยานยนต์เเรงๆ อีกรุ่นในตระกูลง Ducati Scrambler ที่พกพาสมรรถนะเครื่องยนต์มาอย่างดุดันพร้อมสัมผัสความเเรงทุกเส้นทาง

Ducati Scrambler 1100 Sport PRO มีมิติตัวรถที่ลงตัวด้วยความยาว 2,190 มิลลิเมตร ความกว้าง 920 มิลลิเมตร เเละมีความสูง 1,290 มิลลิเมตร มีน้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 189 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 206 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 810 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,514 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 24.5 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 111 มิลลิเมตร  ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 15 ลิตร เบาะนั่งยาวชิ้นเดียวเเบบ Dual seat

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Ducati Scrambler 1100 Sport PRO ก็เเรงไม่เบาโดยมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ L-Twin, Desmodromic distribution, 2 valves per cylinder, air cooled ที่มีขุมพลังขนาด 1,079 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 98 x 71 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 86 เเรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 88 นิวตันเมตรที่ 4,750 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection, Ø55 mm throttle body with full Ride by Wire (RbW) ในขณะที่ระบบไอเสียจะเป็น 2-1-2 system with catalytic converter and 2 lambda probes, twin stainless steel muffler with aluminium covers and end caps มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed มี Primary drive ที่ Straight cut gears, Ratio 1.85:1 อัตรา 1=37/15 2=30/17 3=28/20 4=26/22 5=24/23 6=23/24 ส่วน Final drive เป็นเเบบ Chain; Front sprocket 15; Rear sprocket 39 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Light action, wet, multiplate clutch with hydraulic control. Self-servo action on drive, slipper action on over-run

Ducati Scrambler 1100 Sport PRO มาพร้อมกับเฟรมเเบบ Tubular steel Trellis frame ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ Öhlins fully adjustable Ø48 mm usd fork ทางด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Öhlins monoshock, pre-load and rebound adjustable  ระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเป็นเเบบ 2 x Ø320 mm semi-floating discs, radially mounted Brembo Monobloc M4.32 callipers, 4-piston, axial pump with Bosch Cornering ABS as standard equipment ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบ Ø245 mm disc, 1-piston floating calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ในขณะที่ส่วนของล้อหน้าจะเป็นเเบบ 10-spoke in light alloy, 3.50" x 18" ล้อหลังเป็นเเบบ 10-spoke in light alloy, 5.50" x 17"  โคมไฟหน้าเป็นทรงกลมดวงเดียวขนาดใหญ่มีเหล็กกันกระเเทกคาดเเบบกากบาท แฮนด์จับยาวพร้อมกระจกมองหลังทรงกลมที่ปลายเเฮนด์ ส่วนไฟท้ายเเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ท่อไอเสียคู่ จอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ LCD โดยเป็นทรงกลมคลาสสิค ที่พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีสีดำ Matt Black

สนราคาของ Ducati Scrambler 1100 Sport PRO นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 669,000 บาท
#17

รถจักรยานยนต์เเนวแอดเวนเจอร์นั้นสร้างชื่อให้กับไทรอัมพ์ ในระยะหลังๆ มานี้มากเเละรถอย่าง Triumph NEW TIGER 1200 RALLY PRO ก็ถือว่าเป็นเรือธงของรถเเนวนี้ ที่ไม่ควรพลาดมาสัมผัสกับการขับขี่ได้ทุกสภาพเส้นทาง

มิติตัวรถของ Triumph NEW TIGER 1200 RALLY PRO นั้นนับว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยก็ว่าได้ เพราะมันมีแฮนด์บาร์กว้าง 849 มิลลิเมตร การ์ดแฮนด์อยู่ที่ 948 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,436-1,497 มิลลิเมตร โดยมีบังลมหน้ารถแบบปรับได้ ความสูงที่นั่ง 875-895 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,560 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 23.7 º ส่วน เทรล อยู่ที่ 112 มิลลิเมตร ถังนำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 20 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 249 กิโลกรัม โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.1 ลิตร/100 กิโลเมตร ถือว่าเป็นเป็นแอดเวนเจอร์ขนาดใหญ่อีกรุ่นของไทรอัมพ์

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Triumph NEW TIGER 1200 RALLY PRO นั้นก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย ด้วยการที่มันมาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบระบายความร้อนด้วยของเหลว, 12 วาล์ว, DOHC, 3 สูบแถวเรียง มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 1,160 ซีซี กระบอกสูบขนาด 90.0 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 60.7 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 13.2:1 สามารถให้กำลังที่ 148 เเรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 130 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบต่อนาที โดยมีระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่องแบบ Multipoint พร้อมควบคุมคันเร่งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์  ระบบไอเสียจะเป็นระบบท่อไอเสียสแตนเลสสตีลแบบ 3 ออก 1 พร้อมปลายท่อเดี่ยวออกข้าง ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบเพลาขับ ทำงานร่วมกับระบคลัตช์ไฮดรอลิก, เปียก, หลายแผ่น, สลิปและแอสซิสท์ พร้อมด้วยระบบเกียร์เเบบ 6 สปีด

เฟรมของ Triumph NEW TIGER 1200 RALLY PRO เป็นเเบบเฟรมท่อเหล็ก พร้อมแขนค้ำอะลูมิเนียมหล่อ ซับเฟรมหลังอะลูมิเนียมสำเร็จรูปแบบยึดด้วยสกรู ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบสวิงอาร์มอะลูมิเนียม "Tri-Link" แบบสองด้าน พร้อมทอร์คอาร์มอะลูมิเนียมคู่ ล้อหน้าเป็นเเบบ Spoked (Tubeless) ขนาด 21x2.15 นิ้ว ส่วนล้อหลังเป็นเเบบ Spoked (Tubeless) ขนาด 18x4.25 นิ้ว โดยที่ยางหน้ามีขนาด 90/90-21 (M/C 54V TL) ส่วนยางหลังมีขนาด 150/70R18 (M/C 70V TL) ทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบโช้ค USD ขนาด 49 มิลลิเมตร ของ Showa พร้อมระบบหน่วงการคืนตัวแบบเซมิแอคทีฟ ระยะยุบตัว 220 มิลลิเมตร ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบโช้ค monoshock ของ Showa พร้อมระบบหน่วงการคืนตัวแบบเซมิแอคทีฟ และการปรับค่าพรีโหลดอัตโนมัติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระยะยุบตัวล้อ 220 มิลลิเมตร ทางด้านระบบเบรกนั้น เบรกหน้าจะเป็นเเบบBrembo M4คาลิปเปอร์โมโนบล็อกแบบเรเดียล Brembo M4.30 Stylema, OC-ABS, จานเบรกคู่แบบลอยตัว 320 มม. แม่ปั๊มเบรกแบบเรเดียล Magura HC1 ที่สามารถปรับระยะได้ พร้อมกระปุกน้ำแยก Magura HC1.30 Stylema monoblock radial calipers, OC-ABS, twin 320mm floating discs. Magura HC1 span adjustable radial master cylinder with separate reservoi เบรกหลังเป็นเเบบคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว Brembo, OC-ABS, จานเดี่ยว 282 มม. แม่ปั๊มหลังพร้อมกระปุกน้ำมันแยก มีหน้าจอ TFT สีขนาด 7 นิ้้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ My Triumph โคมไฟหน้าเป็นเเบบใหม่ ตัวบอดี้มี 3 สี มาให้เลือก ทั้งสีขาว, สีเทา เเละสีดำ

โดยราคาขายของ Triumph NEW TIGER 1200 RALLY PRO นั้นเคาะออกมาที่ราคา 972,000 บาท
#18

รถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคอีกรุ่นของไทรอัมพ์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งคือ Triumph NEW STREET TWIN ที่มีสมรรถนะจากแรงบิดสูงมาก พร้อมเทคโนโลยีระดับแนวหน้า เเถมด้วยสไตล์การแต่งคัสตอมแบบออริจินัลสุดโดดเด่น

มิติตัวรถของ Triumph NEW STREET TWIN นั้นก็น่าสนใจ เพราะออกเเบบมาได้อย่างลงตัวด้วยขนาดความกว้างของแฮนด์รถอยู่ที่ 780 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,110 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 765 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.1 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 102.4 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 12 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 217 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.1 ลิตร/100 กิโลเมตร

Triumph NEW STREET TWIN มาพร้อมกับเครื่องยนต์ยนต์เเบบ ระบายความร้อนด้วยของเหลว, SOHC 8 วาล์ว, สูบคู่ขนาน องศาการจุดระเบิด 270 องศา มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 900 ซีซี กระบอกสูบขนาด 84.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.0:1 สามารถให้กำลังที่ 65 เเรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 80 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์หลายจุดตามลำดับ ส่วนระบบท่อไอเสียสองชั้นสเตนเลสสตีลขัดเงาแบบ 2 ออก 2 พร้อมท่อเก็บเสียงสแตนเลสปัดเงา ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่  โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบเปียกแบบหลายแผ่น พร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 5 สปีด พกพาความเเรงมาเเบบสุดจริง

เฟรมของ Triumph NEW STREET TWIN ได้รับการออกเเบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเเบบโครงเหล็ก ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบโครงเหล็กแขนคู่ ล้อหน้าจะเป็นเเบบอลูมิเนียมอัลลอยด์แบบหลายก้าน 18 x 2.75 นิ้ว ส่วนล้อหลังจะเป็นเเบบ อลูมิเนียมอัลลอยด์แบบหลายก้าน 17 x 4.25 นิ้ว โดยยางหน้ามีขนาด 100/90-18 ยางหลังมีขนาด 150/70 R17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบโช้คคาร์ทริดจ์ ขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อมตลับ โดยที่ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ โช้คหลังคู่ สามารถปรับพรีโหลดได้ ส่วนเบรกหน้าจะเป็นเเบบคาลิปเปอร์เบรกหน้า Brembo แบบ 4 ลูกสูบพร้อมดิสก์เบรกเดี่ยวแบบลอยตัวขนาด 310 มิลลิเมตร และระบบ ABS ในขณะที่เบรกหลังเป็นเเบบคาลิปเปอร์เบรกสูบเดี่ยว Nissin พร้อมดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 255 มิลลิเมตร และระบบ ABS  โดยที่แผงหน้าปัด เป็นเเบบแผงหน้าปัด LCD แบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก ไฟหน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 1 ดวง เบาะนั่งเดี่ยวยาวจำนวน 2 ที่นั่ง ส่วนตัวบอดี้นั้นมี 3 สีให้เลือก ทังสีดำ, สีเทา และสีน้ำเงิน

ราคาขายของ Triumph NEW STREET TWIN นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 399,000 บาท นับว่าเป็นอีกรุ่นของไทรอัมพ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
#19

Triumph New Bonneville T120 Black Gold Line Editions ถือว่าเป็นรถจักรยานยนต์เเนวคลาสสิคอีกรุ่นของไทรอัมพ์ ที่ใส่ใจในรายละเอียดอย่างมาดทั้งการประกอบด้วยมือเเละสีของตัวถังที่ตัดกันอย่างสวยงามลงตัว ให้ความรู้สึกดูดีมีสไตล์เป็นอย่างยิ่ง

Triumph New Bonneville T120 Black Gold Line Editions มีความกว้างของแฮนด์รถที่ 780 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,100 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 790 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.5 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 105.2 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 236 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.7 ลิตร/100 กิโลเมตร ถือว่าเป็นโครงสร้างที่ลงตัวอย่างยิ่งอีกรุ่น

ในส่วนของสมรรถนะเครื่องยนต์นั้น Triumph New Bonneville T120 Black Gold Line Editions พกพาเครื่องยนต์เเบบระบายความร้อนด้วยของเหลว, SOHC 8 วาล์ว, สูบคู่ขนาน องศาการจุดระเบิด 270 องศา โดยมีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 1,200 ซีซี กระบอกสูบขนาด 97.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.0:1 สามารถให้กำลังที่ 80 เเรงม้าที่ 6,550 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 105 นิวตันเมตรที่ 6,550 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์หลายจุดตามลำดับ ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบระบบท่อไอเสียสีดำ 2 เป็น 2 พร้อมท่อเก็บเสียงคู่สีดำ ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่ โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบเปียกแบบหลายแผ่น พร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

เฟรมของ Triumph New Bonneville T120 Black Gold Line Editions จะเป็นเเบบโครงท่อเหล็กพร้อมแท่นวางคู่ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบการประดิษฐ์สองด้าน ส่วนล้อหน้าเป็นเเบบขอบอลูมิเนียม วงล้อเหล็กขนาด 18 x 2.75 นิ้วส่วนล้อหลังจะเป็นเเบบขอบอลูมิเนียม วงล้อเหล็กขนาด 17 x 4.25 นิ้ว ส่วนยางหน้ามีขนาด 100/90-18 ยางหลังมีขนาด 150/70-R17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบส้อม 41 มิลลิเมตร พร้อมตลับ ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ RSU คู่พร้อมการปรับพรีโหลด โดยที่ระบบเบรกนั้นเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานคู่ 310 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่แบบลอย พร้อมระบบ ABS ส่วนทางด้านเบรกหลังเป็นเเบบจานเดี่ยว 255 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่แบบลอย พร้อมระบบ ABS โดยที่แผงหน้าปัดมัลติฟังก์ชั่น LCD พร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก   ไฟหน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 1 ดวง เบาะนั่งเดี่ยวยาวจำนวนสองที่นั่งสีน้ำตาล ส่วนตัวบอดี้นั้นเป็นสีดำ ตัดด้วยลายเส้นสีทอง สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

สนราคาของ Triumph New Bonneville T120 Black Gold Line Editions จะจำหน่ายที่เรทราคา 596,000 บาท
#20

Suzuki V-Strom 650XT คือรถจักรยานยนต์ที่จะทำให้คุณพบกับความท้าทายและการผจญภัยใหม่ตามที่คุณต้อง ด้วยอุปกรณ์ที่จะทำให้การขับขี่ของคุณเป็นเรื่องสนุก คุณสมบัติเฉพาะต่างๆที่จะช่วยทำให้การเดินทางปลอดภัยมากยิ่งขึ้น มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงการผจญภัย และความเป็นเอกลักษณ์ของแนว Adventure

โครงสร้างตัวรถของ Suzuki V-Strom 650XT นั้นมาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีขนาดความกว้างที่ 910 มิลลิเมตร ความยาวที่ 2,275 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,405 มิลลิเมตร ความยาวช่วงล้ออยู่ที่ 1,560 มิลลิเมตร เเละมีระยะห่างจากพื้น 170 มิลลิเมตร โดยมีความสูงเบาะนั่งที่ 835 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีความจุ 20.0 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 216 กิโลกรัม เป็นอีกหนึ่งรุ่นสปอรต์แอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์ของซูซูกิที่น่าสนใจ

ทางด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ของ Suzuki V-Strom 650XT ก็เร้าใจไม่ใช่เล่นเมื่อมันพกพาขุมกำลังเครื่องยนต์แบบ DOHC V-TWIN พร้อมปริมาตรกระบอกสูบขนาด 645 ซีซี และยังมีระบบ LOW RPM ASSIST ซึ่งช่วยเร่งรอบเครื่องยนต์ขณะรถออกตัว โดยที่มีความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักจะอยู่ที่ 81.0 x 62.6 มิลลิเมตร ระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ แบบอิเล็กทรอนิกส์ (ทรานซิสเตอร์) ทำให้มีอัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 11.2 : 1 ระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection ส่วนระบบหล่อลื่นเป็นเเบบ Wet sump มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric โดยที่มีระบบเกียร์เป็นเเบบ ระบบเกียร์ 6 ระดับ (constant mesh) นับว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงอย่างยิ่งอีกรุ่น

เฟรมของ Suzuki V-Strom 650XT  ได้รับการออกเเบบมาใหม่ให้ความเเข็งเเกร่งสูง โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic, Coil Spring, Oil Damped ส่วนระบบกันสะเทือนหลัง Link Type, coil spring, Oil Damped ในขณะที่เบรกหน้าจะเป็นเเบบ Disc, twin ส่วนเบรกหลังจะเป็นแบบ Disc โดยที่มีขนาดยางหน้าเป็นเเบบ 110/80R19M/C (59V), Tubeless ส่วนขนาดยางหลัง เป็นเเบบ 150/70R17M/C (69V), Tubeless โดยมีชุดแผงหน้าดีไซน์ใหม่ โดยมีมาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์แบบอนาล็อก และมี Feature ใหม่ อย่างโหมดเลือกระบบ Traction control ตัวบอดี้ได้รับการถ่ายทอดรูปโฉมจาก DR-BIG รถจักรยานยนต์แนว ADVENTURE รุ่นแรกของซูซูกิ ที่มีความโดดเด่นในการดีไซน์ สะดุดตาทุกมุมมอง มีระบบ Traction control อันล้ำสมัยมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถได้สูงสุด โดยที่ตัวถังมี 4 สีมาให้เลือกกันทั้งสีเหลือง Champion Yellow No.2 (YU1), สีน้ำเงินเข้ม Pearl Vigor Blue / Metallic Mat Sword Silver (CFR), สีขาว Pearl Brilliant White (YUH) เเละสีดำ Glass Sparkle Black (YVB)

โดยทางด้านของราคาขาย Suzuki V-Strom 650XT  นั้นเคาะราคาออกมาที่เรท 379,000 บาท นับว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ